วันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2558

ประเพณีเลี้ยงผี

 




     ทุกวันนี้ การเหยาเพื่อการรักษาอาการเจ็บป่วยที่เชื่อว่าถูกกระทำเพราะการผิดผี ยังมีให้เห็นอยู่ในชุมชนผู้ไทหรือภูไท  ทีมงานพันแสงรุ้งเดินทางไปสังเกตการณ์พิธีเหยารักษาและพิธีเลี้ยงผีหมอเหยาประจำปีของคนผู้ไทที่บ้านโนนยาง อ.หนองสูง จ. มุกดาหาร  ซึ่งเป็นชุมชนผู้ไทที่ยังเคารพในอำนาจเหนือธรรมชาติหรือพลังของผีอย่างเหนียวแน่น  



          ทั้งสองพิธีกรรมนี้ นอกจากจะสะท้อนเรื่องความเชื่อต่อผีอย่างเคร่งครัดแล้ว  ยังมีมุมมองที่น่าสนใจว่า พิธีกรรม ยังมีบทบาทต่อความสัมพันธ์ของผู้คนในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกำหนดบทบาท หน้าที่ และการเชื่อมโยงของคนหลากหลายวัยในชุมชน  และเป็นการบันทึกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ผ่านการแสดงออกในพิธีกรรม   



 

วันเสาร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2558

ฟ้อนภูไท


     การฟ้อนภูไท ถือได้ว่าเป็นศิลปวัฒนธรรมที่ชาวภูไทสืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านานและมีความงดงามและมีเอกลักษณ์ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องที่ชนรุ่นหลังควรที่จะอนุรักษ์ไว้ให้เป็นเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของชาวอีสานและของชาวไทยสืบต่อไป




ฟ้อนภูไท



กลุ่มผู้สูงอายุซ้อมฟ้อนภูไท

วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2558

งานประเพณีภูไทรำลึก



งานประเพณีภูไทรำลึก เป็นงานประเพณีของชาวภูไทวาริชภูมิ ที่ถือปฏิบัติกันมาเป็นประจำทุกปี ซึ่งชาวภูไทมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เช่น วัฒนธรรมการแต่งกายภูไทถิ่น วัฒนธรรมการนับถือหลักเมือง เจ้าปู่มเหสักข์
นอกจากนี้ในงานจัดให้มีการฟ้อนรำถวายเจ้าปู่มเหสักข์โดยผู้ที่มาร่วมงานจะแต่งตัวในชุดท้องถิ่นภูไท เมื่อถึงวันประเพณีภูไทรำลึก ลูกหลานชาววาริชภูมิที่ย้ายถิ่นฐาน หรือไปทำงานต่างจังหวัด จะเดินทางกลับมาร่วมงานทุกปี เป็นการแสดงถึงการสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีของชาวภูไทวาริชภูมิ ตลอดมา ดังนั้น ในการจัดงานวันภูไทรำลึกเพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของชาวภูไทวาริชภูมิ และเพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน ประชาชน ได้ตระหนัก เห็นคุณค่า ของศิลปวัฒนธรรมประเพณีของชาวภูไทเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น เพื่อช่วยกันอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีให้คงอยู่สืบไป 

วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2558

ประเพณีการทอดกฐิน


แห่กฐินอีสานไทเฮา


การทอดกฐิน เป็นประเพณีที่สำคัญของพุทธศาสนิกชนอย่างหนึ่ง นิยมทำกันตั้งแต่วันแรมหนึ่งค่ำเดือนสิบเอ็ด ไปจนถึงกลางเดือนสิบสอง

การทอดกฐินเป็นบุญที่มีอานิสงส์มหาศาล
         บุญจากการทอดกฐินเป็นบุญพิเศษ ที่ทำได้ยากกว่าบุญอื่น ด้วยสาเหตุหลายประการ ดังนี้ คือ

การทำบุญทอดกฐิน เป็นบุญที่ถูกจำกัดด้วยไทยธรรม กล่าวคือ ของที่ถวาย
ต้องเป็นผ้าผืนใดผืนหนึ่งในจำนวนไตรจีวรเท่านั้น
1.) จำกัดด้วยเวลา คือต้องถวายภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่วันออกพรรษา
2.)จำกัดชนิดทาน คือ ต้องถวายเป็นสังฆทานเท่านั้น จะถวายเจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่งเหมือนทานอื่นไม่ได้
3.)จำกัดคราว คือ แต่ละวัดรับกฐินได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น
4.)จำกัดผู้รับ คือ พระภิกษุรับกฐินได้จะต้องจำพรรษาที่วัดนั้นครบไตรมาส (เดือน) และจะต้องมีจำนวนตั้งแต่ 5 รูปขึ้นไป
5.)จำกัดงาน คือ เมื่อพระภิกษุรับผ้ากฐินแล้ว จะต้องกรานกฐินให้เสร็จภายในวันนั้น
6.)จำกัดของถวาย คือ ไทยธรรมที่ถวายต้องเป็นผ้าผืนใดผืนหนึ่งในไตรจีวรเท่านั้น โดยทั่วไปนิยมใช้สังฆาฏิ ไทยธรรมอื่นจัดเป็นบริวารกฐิน เกิดจากพุทธประสงค์ พระสัมมาสัมมาพุทธเจ้าทรงมีพุทธานุญาตให้พระภิกษุสงฆ์รับผ้ากฐินเพื่อพลัดเปลี่ยนไตรจีวรเก่า แต่ทานอย่างอื่นทายกทูลขอให้อนุญาต เช่น มหาอุบาสิกาวิสาขาทูลขออนุญาต ถวายผ้าอาบน้ำฝน


การทอดกฐิน และประเพณีทอดกฐิน 
 ผ้ากฐิน โดยความหมายก็คือผ้าสำเร็จรูปโดยอาศัยไม้สะดึง นิยมเรียกกันจนปัจจุบันนี้
การทอดกฐิน คือ การนำผ้ากฐินไปวางไว้ต่อหน้าพระสงฆ์อย่างต่ำ 5 รูป แล้วให้พระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งที่ได้รับมอบหมาย จากคณะสงฆ์ทั้งนั้นเป็นเอกฉันท์ให้เป็นผู้รับกฐินนั้น
เขตกำหนดทอดกฐิน
       การทอดกฐินเป็นกาลทาน ตามพระวินัยกำหนดกาลไว้ คือ ตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใส ใคร่จะทอดกฐิน ก็ให้ทอดได้ในระหว่างระยะเวลานี้ จะทอดก่อนหรือทอดหลังกำหนดนี้ ไม่จัดเป็นการทอดกฐิน
แต่มีข้อยกเว้นพิเศษว่า ถ้าทายกผู้จะทอดกฐินนั้น มีกิจจำเป็น เช่น จะต้องไปในทัพ ไม่สามารถจะอยู่ทอดกฐินตามกำหนดนั้นได้ จะทอดกฐินก่อนกำหนดดังกล่าวแล้วพระสัมมาสัมพุทธะ ทรงอนุญาตให้ภิกษุรับไว้ก่อนได้
       นอกจากนี้การทอดกฐินยังเป็นทานที่พิเศษ คือ ทั้งพระภิกษุและญาติโยมผู้ทอดกฐินได้อานิสงส์ด้วยกัน การทอดกฐินจึงเป็นบุญใหญ่ ที่ผู้ให้ (คฤหัสถ์) และผู้รับ (พระภิกษุสงฆ์) ต่างก็ได้บุญทั้ง 2 ฝ่าย